ม่ายสาว เจ้าของร้านชำ วัย 47 ถูกฆ่าปาดคอโหด ญาติติดใจปมเสียชีวิต

ม่ายสาว เจ้าของร้านชำ วัย 47 ถูกฆ่าปาดคอโหด ญาติติดใจปมเสียชีวิต

ฆ่าปาดคอ ม่ายสาว เจ้าของร้านชำ วัย 47 บึงกาฬ ญาติติดใจปมการเสียชีวิต ตำรวจเร่งตรวจสอบหลักฐานภาพจาากกล้องวงจรปิด ไล่ล่าตัวคนร้าย เหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ กรณีฆ่าปาดคอ ม่ายสาว วัย 47 ปี เจ้าของร้านชำ ได้รับการรายงานจาก เจ้าหน้าที่ตำ-รวจ 191 เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังพ่อผู้ตายแทบช็อก เข้าไปพบศพลูกตัวสเองก่อนเป็นฝ่ายโทรแจ้งตำรวจ

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ 

โดยศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา นางอนัญญา หรือ เจ๊แดง อายุ 47 ปี ถูกพบที่บริเวณด้านหลังแผงวางสินค้าติดกับทางขึ้นบันไดชั้น 2 ถูกคนร้ายใช้ของมีคมปาดคอเป็นแผลเหวอะหวะ หวิดขาด น่าสยดสยอง นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอนโซฟา สภาพศพใส่เสื้อแขนสั้นคอวีสีน้ำตาล กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ เสื้อยืดถูกรื้อขึ้นมาถึงใต้ราวนม

ขณะที่ทรัพย์สินที่หายไป ประกอบด้วย  สร้อยคอหนัก 3 บาท สร้อยข้อมือ 1 บาท แหวน 2 วง โทรศัพท์ยี่ห้อ OPPO 1 เครื่องและกระเป๋าใส่เงินที่ขายของได้คาดว่าจะหลายหมื่นบาท เนื่องจากเป็นการขายของกินของใช้ใน 2 วันคือวันศุกร์และวันเสาร์ จะนำเงินที่ขายได้ไปฝากธนาคารในบ่ายของวันจันทร์

ญาติคาใจปมการเสียชีวิต พฤติกรรมคนร้ายสุดเหี้ยมโหด ทั้งนี้ ญาติๆ ผู้ตาย ยังคงติดใจ ประเด็นการเสียชีวิต ว่าเป็นการถูกปาดคอก่อนเสียชีวิตหรือเสียชีวิตแล้วคนร้ายจึงลงมือปาดคอ จึงต้องส่งศพไปชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เช้า

โดย นางอนัญญา ผู้ตาย ได้หย่าขาดกับสามีไปเมื่อ 6 ปีก่อน และอาศัยอยู่ที่ร้านกับหลาน แต่วันเกิดเหตุหลานไม่ได้มาอยู่ด้วย กระทั่งมาเกิดเหตุการสลดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งทาง พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวถึงความคืบหนร้าจขอวงคดีว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าคืนที่ผ่านมาประมาณ 4 ทุ่ม ร้านยังเปิดปกติมีลูกค้ามาซื้อของอยู่ น่าจะปิดร้านประมาณ 5 ทุ่ม และก็มาพบกลายเป็นศพในช่วงเช้า

เวลานี้ได้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บ DNA จากรอยเลือด และลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ ส่วนด้านนอกบ้านกำลังให้ชุดสืบสวนไล่ดูตามกล้องวงจรปิดในมุมต่างๆ เหตุฆาตกรรมครั้งนี้ตั้งไว้ที่ประเด็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ประเด็นเดียวไว้ก่อน ซึ่งคดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจมาก เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนในพื้นที่

ข่าวพระล่าสุด อดีตพระครู บวชตั้งแต่ 18 ล่อลวงเด็ก 14 หนีโทษจำคุก 5 ปี ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบ ไม่ยอมสึกแถมย้อนกลับมาอยู่วัดเดิมที่ทำเรื่องฉาว วันที่ 6 ก.ค.65 พระครูปลัดกิตติพันธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เปิดปากสารภาพสิ้น หลังถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) หรือ ตำรวจหน่วยคอมมานโด เข้าควบคุมตัวมาให้การในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเรา เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”

โดยย้อนกลับไปเมื่อ ปี พ.ศ.2556 พระครูปลัดกิตติพันธ์ ได้ล่อลวง ด.ช. วัย 14 ปี มาทำการล่วงละเมิดทางเพศภายในกุฏิวัด กระทั่งความผิดของอดีตพระครูถูกศาลชั้นต้นพิพากษา ลงโทษจำคุก 5 ปี แต่เจ้าตัวหลบหนีคดีไปนานกว่า 5 ปี ก่อนจะมาจนมุมเจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโดซึ่งบุกไปรวบตัวตามหมายจับ

อุทาหรณ์ สาวร้องเพจดังมิจฉาชีพมาแนวดุ โทรขู่ฆ่าถึงที่ทำงานเย็นนี้

ข่าวเตือนภัยสังคม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขู่ฆ่าถึงที่ทำงาน สาวร้องเพจดัง Drama-Addict หลังเจอมิจฉาชีพโทรป่วน พูดจาหยาบคาย คล้ายข่มขู่ให้กลัวแล้วโอนเงิน แถมเรียกชื่อเล่นที่คนใกล้ชิดเท่านั้นที่จะทราบ

ข่าวเตือนภัยสังคม ล่าสุด – วันนี้ (4 ก.ค.65) เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-Addict ได้มีการออกมาโพสต์เตือนภัยมิจฉาชีพ โดยเป็นการลงเรื่องราวที่ลูกเพจซึ่งเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง นำประสบการณ์ที่ถูกมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาหวังหลอกให้โอนเงิน โดยเที่ยวนี้มาแบบใหม่ หาข้อมูลส่วนตัวเหยื่อจนทราบชื่อเล่นที่คนใกล้ชิดเท่านั้นรู้จัก รวมถึงชื่อที่ทำงาน ขู่ฆ่าถึงที่ทำงานหากไม่บยอมเจรจาจ่ายค่าชดเชย

” สวัสดีค่ะจ่า ขออนุญาตแชร์วิธีใหม่ที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้เพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงิน เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆค่ะ ”

” พอดีเมื่อเช้านี้มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามา พอเรารับ ปลายสายเป็นเสียงเด็กผู้ชายวัยรุ่น เสียงยังไม่แตก สอบถามว่าเรารู้จักหรือเกี่ยวข้องกับคน ๆ นึงมั้ย ( ซึ่งชื่อที่เค้าแจ้งมา เป็นชื่อที่เราไม่รู้จักเลย จึงตอบไปว่าไม่รู้จัก คุณโทรผิดแล้วค่ะ ) แต่ปลายสายกลับแย้งมาว่า แต่เราชื่อxxxx ทำงานเป็น xxxx ใช่มั้ย ( ซึ่งตรงกับข้อมูลส่วนตัวเราทุกอย่างค่ะ แถมชื่อที่ใช้เรียก ยังเป็นชื่อเล่นที่เฉพาะคนใกล้ตัวถึงจะทราบค่ะ ) ”

” พอเห็นเราเงียบไป เค้าเลยบอกว่า เรา และ คนที่เค้าเอ่ยชื่อคนแรก ไปทำอะไรไว้ย่อมรู้ดี ให้นัดเจอเย็นนี้ ซึ่งถ้าเราไม่จ่ายเงินชดใช้แทนคนนั้น เย็นนี้จะบุกมาฆ่าเราถึงที่(สถานที่ทำงาน) ตลอดเวลาที่พูดปลายสายใช้สรรพนาม มึง-กู ในการเรียกเราและด่าทอด้วยตามด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกหลายคำแล้วรีบวางสายไป โดยที่เราไม่ได้โต้ตอบอะไรไปค่ะ ”

” เราคิดว่าทางมิจฉาชีพต้องการเล่นกับความกลัวของคนค่ะ ถ้าคนที่รับสายเกิดโทรกลับไปด้วยความกลัวหรือโกรธ ก็อาจจะเข้าทางตามแผนที่เค้าเตรียมไว้ ”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป